เล็บขบหนึ่งในอาการที่เจอกันได้ทุกคน แต่ก็คงไม่มีใครอยากเจออยู่แล้วเพราะมันทั้งปวดและทรมานเล็บขบเกิดจากเล็บที่เติบโตงอกลงไปในเนื้อของนิ้ว ทำให้เกิดการบาดเจ็บและติดเชื้อได้ง่าย อาการของเล็บขบนั้นทำให้ชีวิตประจำวันของคุณลำบากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเดินหรือสวมรองเท้า นอกจากนี้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงขึ้น และในบทความนี้เราจะมาเล่าถึงสาเหตุและวิธีป้องกันเบื่องต้นที่ทำให้คุณลดความเสี่ยงในการเกิดเล็บขบในอนาคตได้อย่างดี
สาเหตุของเล็บขบ
เล็บขบ เป็นภาวะที่เล็บเจริญเติบโตลงไปในเนื้อของนิ้ว ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบและความเจ็บปวด สาเหตุของเล็บขบมีหลายประการที่ควรทราบ เพื่อป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธี ดังนี้
- การตัดเล็บไม่ถูกวิธี: การตัดเล็บสั้นเกินไป หรือการตัดเล็บเป็นรูปโค้งที่มุมเล็บ อาจทำให้เล็บเจริญเติบโตลงไปในเนื้อ ทำให้เกิดเล็บขบได้ง่าย
- การใส่รองเท้าคับเกินไป: รองเท้าที่คับเกินไป โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่เท้า สามารถกดดันและบีบเล็บ ทำให้เล็บเจริญเติบโตผิดปกติและเกิดเล็บขบ
- การบาดเจ็บที่เล็บ: การบาดเจ็บที่เล็บ เช่น การชน การกระแทก หรือการกดทับที่เล็บบ่อยครั้ง อาจทำให้เล็บเจริญเติบโตผิดปกติและเกิดเล็บขบ
- การติดเชื้อ: การติดเชื้อราหรือแบคทีเรียที่เล็บ สามารถทำให้เล็บและผิวหนังรอบ ๆ เล็บอ่อนแอลง และเกิดเล็บขบได้ง่ายขึ้น
- พันธุกรรม: บางครั้งการเจริญเติบโตของเล็บอาจได้รับผลกระทบจากพันธุกรรม ซึ่งอาจทำให้บางคนมีโอกาสเกิดเล็บขบได้ง่ายกว่าคนอื่น
- ลักษณะการเดินหรือการยืน: การเดินหรือการยืนในลักษณะที่ผิดปกติ อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเล็บ ทำให้เล็บขบได้
วิธีแก้ไขเล็บขบ
การแก้ไขเล็บขบสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและสาเหตุที่ทำให้เกิดเล็บขบ ดังนี้
- การตัดเล็บอย่างถูกวิธี: ควรตัดเล็บตรง ๆ และไม่ควรตัดสั้นเกินไป หลีกเลี่ยงการตัดเล็บเป็นรูปโค้งที่มุมเล็บ เพื่อป้องกันเล็บเจริญเติบโตลงไปในเนื้อ
- การสวมรองเท้าที่เหมาะสม: เลือกรองเท้าที่มีขนาดพอดี ไม่คับหรือหลวมเกินไป และควรเลือกวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อป้องกันการกดดันและการติดเชื้อ
- การทำความสะอาดเล็บและผิวหนัง: ควรรักษาความสะอาดของเล็บและผิวหนังรอบ ๆ เล็บ หลีกเลี่ยงการเก็บความชื้นที่เล็บและผิวหนัง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- การใช้ยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบ: ในกรณีที่มีการอักเสบหรือการติดเชื้อ ควรใช้ยาฆ่าเชื้อหรือยาแก้อักเสบตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อรักษาอาการและป้องกันการลุกลาม
- การปรึกษาแพทย์: หากอาการเล็บขบรุนแรงหรือมีการอักเสบมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม แพทย์อาจทำการผ่าตัดเล็บหรือให้การรักษาอื่น ๆ ตามความเหมาะสม
- การทำกายภาพบำบัด: สำหรับบางกรณี การทำกายภาพบำบัดสามารถช่วยปรับปรุงลักษณะการเดินหรือการยืน เพื่อป้องกันการเกิดเล็บขบในอนาคต
การป้องกันเล็บขบ
การป้องกันเล็บขบเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดและการอักเสบ การดูแลเล็บอย่างถูกวิธีและปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยลดความเสี่ยง
- ตัดเล็บอย่างถูกวิธี: ตัดเล็บตรง ๆ และไม่ตัดสั้นเกินไป
- สวมรองเท้าที่เหมาะสม: เลือกรองเท้าที่พอดีและระบายอากาศได้ดี
- รักษาความสะอาด: ทำความสะอาดเล็บและผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ: ระมัดระวังไม่ให้เล็บได้รับการกระแทกหรือกดทับ
เมื่อเรารู้จักสาเหตุของเล็บขบแล้ววิธีการป้องกันประกอบกับการดูแลเล็บอย่างถูกวิธีและการป้องกันอย่างเหมาะสม เราสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดเล็บขบและรักษาสุขภาพของเล็บให้แข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยคนที่มีปัญหาเรื่องเล็บได้ไม่มากก็น้อยนะครับ